สภาวิชาชีพบัญชี ร่วมลงนามความร่วมมือทางวิชาการในการจัดหลักสูตรอบรมบุคลากรประกันภัย (MOU)

สภาวิชาชีพบัญชี ร่วมลงนามความร่วมมือทางวิชาการในการจัดหลักสูตรอบรมบุคลากรประกันภัย (MOU)

            สภาวิชาชีพบัญชี ในพระบรมราชูปถัมภ์ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) สมาคมประกันชีวิตไทย และสมาคมประกันวินาศภัยไทย ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการ ในการจัดหลักสูตรอบรมบุคลากรของภาคประกันภัย ในวันพฤหัสบดีที่ 30 มิถุนายน 2559 ณ โรงแรมสวิสโซเทล เลอ คองคอร์ด การลงนามครั้งนี้ทั้ง 4 องค์กรได้เล็งเห็นประโยชน์ร่วมกันในการร่วมมือทางวิชาการ เพื่อประโยชน์ในการส่งเสริม พัฒนาและกำกับดูแลการประกอบธุรกิจประกันภัยให้เจริญเติบโตอย่างยั่งยืนและมีเสถียรภาพ จึงเห็นชอบร่วมกันจัดทำบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ขึ้น
            คุณประสัณห์ กล่าวภายในงานว่า “รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นตัวแทนสภาวิชาชีพบัญชี ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในการร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ เพราะ ในปัจจุบันภาคธุรกิจประกันภัยถือเป็นภาคส่วนที่มีบทบาทสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย ทั้งในบทบาทด้านการเป็นหลักประกันที่มั่นคงในชีวิตและทรัพย์สินให้กับระดับครัวเรือนจนถึงระดับอุตสาหกรรม  อีกบทบาทหนึ่งคือเป็นผู้ลงทุนสถาบันที่สำคัญทั้งในตลาดตราสารหนี้และในตลาดตราสารทุน ในการจะวางรากฐานสำหรับธุรกิจประกันภัยให้เติบโตอย่างโปร่งใสและอย่างยั่งยืนนั้น ปัจจัยที่สำคัญยิ่งต่อการเติบโตของธุรกิจ คือ การพัฒนาบุคลากรในธุรกิจ ซึ่งรวมถึงบุคลากรทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน โดยนอกจากจะพัฒนาในด้านศักยภาพในการแข่งขันให้มีความรู้และทักษะในการประกอบอาชีพในระดับที่สามารถแข่งขันกับต่างประเทศแล้ว การวางรากฐานทางจิตใจให้มีความมั่นคง ปฏิบัติหน้าที่บนพื้นฐานของความสุจริตยุติธรรม และซื่อสัตย์ต่อจรรยาบรรณวิชาชีพ ก็เป็นปัจจัยที่สำคัญยิ่งต่อการพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน สภาวิชาชีพบัญชีได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาบุคลากรในภาคส่วนประกันภัย จึงได้กำหนดหลักสูตรในการพัฒนาบุคลากรสำหรับภาคส่วนประกันภัยขึ้น ซึ่งถือเป็นธุรกิจแรกที่สภาวิชาชีพมีการพัฒนาหลักสูตรขึ้นโดยเฉพาะ โดยจะเริ่มต้นจากการวางพื้นฐานด้านองค์ความรู้และแนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับการบัญชี ระบบบัญชี การกำกับดูแลกิจการ ระบบการควบคุมภายใน ระบบการบริหารความเสี่ยง และระบบการจัดการข้อมูลภายในบริษัท หรือ ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ การลงนามความร่วมมือครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสอันดีสำหรับภาคประกันภัย ที่จะร่วมกันวางรากฐานที่มั่นคง เพื่อให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างโปร่งใสและยั่งยืน โดยทุกท่านเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางของธุรกิจผ่านการกำหนดนโยบาย และเป็นผู้นำในการสร้างวัฒนธรรมองค์กร ด้วยการเป็น Role Model และสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรให้เติบโตเป็นผู้บริหารที่มีความสามารถและมีคุณธรรม”

โพสต์เมื่อ :
11 พ.ย. 2560 9:29:05
 1988
ผู้เข้าชม
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์